This is life.

นี่หรือ ชีวิต ยิ่งอายุมากขึ้นเท่าผมก็คิดว่าชีวิตเราก็ยิ่งยุ่งขึ้นเท่า นั้น หรือ อาจเป็นเพราะผมยังจัดการชีวิตไม่ดีพอ ตอนนี้อายุก็ จะ 22 แล้วทำไม ช่วงนี้เหมือนชีวิตไร้จุดยืน จากครั้งอดีตเราคิดเราค้นพบว่าชีวิตของเราต้องการอะไรรัก ที่ จะทำอะไร ชอบ อะไร แล้วเราก็ได้พาตัวเรามายืนอยู่นะจุดนั้นแล้ว แต่ก็ไม่เข้าใจอีกละว่าทำไมต้องทำให้ตัวเราตกลงไปอยู่ในจุดที่ตำลงกว่าเดิม จึงทำให้ต้องพยายามทำให้ตัวเองกลับไปในจุดนั้นให้ได้ มันก็คือการเสียเวลาดี นี่เอง แต่ถ้ามองดี ๆ แล้ว เวลาไม่เคยเสียไปโดยไร้ประโยชน์ เพียงแต่เราจะมองย้อนกลับไปดูในสิ่งที่เราทำในอดีตว่ามันสอนอะไรเราบ้างในอนาคตเราจะได้ไม่ทำตัวเช่นนั้นอีก ผ่านชีวิตมาตั้งนานนะ ก็คิดว่าช่วงอายุ 21 ปี นี่แหละ ที่มีอะไรเกิดขึ้นในชีวิตมากที่สุด ทั้งดีและร้าย ปน ๆ กันไป ไม่รู้เหมือนกันว่าพลังต่าง ๆ ในชีวิตมันหายไปไหนหมด เหมือนชีวิตมันหดหู่ไร้กำลังใจ เหมือนคนกำลังหมดไฟไม่น่าเชื่อนะว่าจะกำลังเกิดกับ คน ๆ นี้ในช่วงเวลาอายุเท่านี้เอง เฮ้อออเหนื่อยทั้ง ๆ ที่ ไม่ค่อยได้ทำอะไร คำที่เขากล่าวไว้ว่าชีวิตมีทั้งทุกข์และสุขปน ๆ กัน แต่ไม่เข้าใจว่าทำไมชีวิตในช่วงนี้มักจะมีแต่ทุกข์ จากที่เขียนมามีแต่ความสับสน มีแต่ คำว่า "ทำไม" "อะไร" "ไม่รู้" เต็มไปหมด
--- เหนื่อยกายนะพอทน แต่เหนื่อยใจไม่รู้จะทนยังไง
--- ชีวิตยังไม่สิ้นก็ต้อง ดิ้นกันต่อไป
--- คนที่ไม่เคยลำบากแล้วจะสบายมันไม่มี

No comments: